วิเคราะห์ตลาดเชิงลึกIconBrandElement

article-thumbnail

2025-05-29 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทรัมป์กำลังทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐตกต่ำโดยตั้งใจหรือไม่? 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจทางการเงินระดับโลก อาจกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ที่มูลค่าของมันถูกลดทอนอย่างมีกลยุทธ์จากภายใน  และคนที่อยู่ศูนย์กลางของเรื่องนี้ก็คือ? โดนัลด์ ทรัมป์  ในขณะที่ทรัมป์เดินหน้าวางแผนสำหรับอีกสี่ปีข้างหน้า มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งชี้ว่าเขาอาจกำลังกดดันธนาคารกลางสหรัฐให้ลดค่าเงินดอลลาร์อย่างตั้งใจ ไม่ใช่แค่ในเชิงเศรษฐกิจ แต่เป็นอาวุธทางการเมืองด้วย  ดังนั้น ทรัมป์กำลังทำให้ดอลลาร์สหรัฐร่วงโดยตั้งใจจริงหรือไม่? มาดูหลักฐานกัน  ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง ช่วยแก้ปัญหาหลายอย่างให้ทรัมป์ได้  การลดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลงประมาณ 25–30% ภายในสองสามปีข้างหน้า อาจฟังดูรุนแรง แต่ก็อาจเป็นสิ่งที่ทรัมป์ต้องการโดยตรง  เหตุผลมีดังนี้:  พูดง่ายๆ คือ การทำให้ดอลลาร์อ่อนลงสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจในคราวเดียวกัน  ตลาดเริ่มสะท้อนสิ่งนี้แล้วหรือยัง?  พฤติกรรมของตลาดในปี 2025 สะท้อนแนวคิดนี้ได้อย่างน่าสนใจ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ระดับราคาต่ำสุดที่ผ่านมา:  สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่สะท้อนถึงการกำหนดมูลค่าทรัพย์สินใหม่ภายใต้ยุคใหม่ของ “การลดค่าเงิน”  และยุคนั้นกำลังถูกขับเคลื่อนอย่างเงียบๆ โดยประเทศเศรษฐกิจมหาอำนาจทั่วโลก  วัฏจักรหลายปีของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ  กราฟนี้แสดงให้เห็นว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีรูปแบบวัฏจักรซ้ำทุกๆ 10 ปี โดยแต่ละรอบมักจบลงด้วยการกลับตัวอย่างรุนแรง และในวันนี้ DXY กำลังเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นของการอ่อนค่าครั้งใหญ่รอบใหม่  ผลที่ตามมา? มีโอกาสที่ดอลลาร์จะอ่อนค่าต่อไป โดยเฉพาะหากนโยบายกดค่าเงินของทรัมป์เริ่มเป็นรูปธรรม และธนาคารกลางสหรัฐฯ ถูกกดดันทางการเมืองให้ลดดอกเบี้ย  ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังเดินหน้าเต็มสูบ  ไม่ใช่แค่สหรัฐฯ เท่านั้นที่กำลังลดค่าเงินของตนเอง ยูโรโซน จีน และญี่ปุ่น ต่างก็ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นกัน […]

article-thumbnail

2025-05-23 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

กรณีที่ Bitcoin จะพุ่งแตะ $150K: ทำไม M2 จึงสำคัญในตอนนี้ 

Bitcoin เคยผ่านจุดนี้มาก่อน ทั้งผู้สงสัย การดิ่งลงของราคา และการพุ่งแรงแบบไม่คาดคิดที่ทำให้เสียงวิจารณ์เงียบหายไป แต่ครั้งนี้มีบางอย่างที่แตกต่างออกไปเบื้องหลังการเคลื่อนไหวครั้งนี้ มันเป็นบางสิ่งที่ใหญ่กว่า ไม่ใช่แค่กระแสหรือการพูดถึง Halving แต่มันคือ “ปริมาณเงินทั่วโลก” และมันอาจกำลังบอกเราว่า Bitcoin กำลังจะไปทางไหนต่อ  สภาพคล่องทั่วโลกกำลังพุ่งสูงขึ้น และตามสถิติในอดีต เมื่อปริมาณเงินพุ่งขึ้น Bitcoin มักไม่ใช่แค่ขยับตาม แต่พุ่งแรง  ในบทความนี้ เราจะสำรวจว่า M2 กลายเป็นชาร์ตที่สำคัญที่สุดในโลกคริปโตได้อย่างไร ทำไมในอดีต M2 ถึงเคลื่อนไหว “นำ” Bitcoin ล่วงหน้าได้ถึง 12 สัปดาห์? และทำไมช่วงเวลานี้อาจเป็นการเปิดทางให้ BTC พุ่งแตะ $150,000   มาเจาะลึกกันว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น และทำไมนักเทรดและนักลงทุนถึงควรจับตาสถานการณ์ในตอนนี้  M2 คืออะไร และทำไมถึงเป็นตัวชี้นำ Bitcoin  M2 คือมาตรวัดปริมาณเงินที่รวมถึงเงินสด เงินฝากกระแสรายวัน และสินทรัพย์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย พูดง่ายๆ คือ เมื่อ M2 เพิ่มขึ้น สภาพคล่องในระบบก็จะเพิ่มขึ้นตาม  ในอดีต Bitcoin มักเคลื่อนไหวตามทิศทางของสภาพคล่องนี้ […]

article-thumbnail

2025-05-15 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

กระทิงกลับมาแล้ว: ตลาดหุ้นพุ่งแรงจากดีลการค้าสหรัฐ-จีน 

บางสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพิ่งเกิดขึ้น และวอลล์สตรีทกำลังส่งเสียงเฮ  ตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่งขึ้น หลังจากสหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงการค้าแบบไม่คาดคิด ข้อตกลงนี้ช่วยยกเลิกภาษีนำเข้า บรรเทาความตึงเครียด และผลักดันสินทรัพย์เสี่ยงให้ปรับตัวขึ้นแรง ดัชนี S&P 500 กระโดดเกือบ 4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วน Nasdaq พุ่งยิ่งกว่า ตลาดในเอเชียพุ่งขึ้น และดัชนียุโรปก็ขยับตาม  นี่คือการดีดกลับที่ทำให้ฝั่งหมีต้องกลับมาทบทวนมุมมองทั้งหมดใหม่  แล้วอะไรอยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้? นี่คือจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวแบบ V-shape ที่หลายคนเฝ้ารอใช่หรือไม่? หรือเป็นแค่ความผันผวนชั่วคราวในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ยังไม่นิ่ง?  ดีลการค้าสหรัฐ-จีน จุดประกายการฟื้นตัวรูปแบบ V-Shape  การฟื้นตัวแบบ V-shape ถือเป็นจอกศักดิ์สิทธิ์ของตลาดในช่วงขาลง เพราะมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ชัดเจน และรุนแรง: ร่วง แล้วพุ่ง ลองนึกถึงช่วงโควิด-19 ในปี 2020 หรือผลกระทบจาก Brexit หรือแม้แต่ปี 1987 ที่ความกลัวพุ่งถึงจุดสูงสุด ก่อนที่ตลาดจะดีดกลับอย่างรุนแรง  แล้วคลื่นการฟื้นตัวรอบนี้ล่ะ? กำลังเริ่มสะท้อนรูปแบบเดิมที่คุ้นเคย  ในประวัติศาสตร์ ดัชนี S&P 500 เคยสร้างการฟื้นตัวรูปแบบ V-shape ได้อย่างน่าทึ่ง ในช่วงวิกฤตโควิดปี […]

article-thumbnail

2025-05-12 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ภาษีนำเข้าถล่มเสน่ห์แห่ง Met Gala: แฟชั่นหรูจะอยู่รอดหรือไม่? 

งาน Met Gala 2025 ยังคงสร้างความตื่นตาในแบบเฉพาะตัวจากแฟชั่นโอต์กูตูร์สุดอลังการ เหล่าคนดังที่เจิดจรัสและกระแสไวรัลบนโซเชียลมีเดียแบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton, Chanel และ Valentino ครองพื้นที่สื่อด้วยดีไซน์อันน่าทึ่งและเหล่าแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก  แต่เบื้องหลังแสงแฟลชและพรมแดงอุตสาหกรรมแฟชั่นกำลังเผชิญวิกฤตรอบใหม่: คลื่นพายุที่รวมเอาภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นต้นทุนที่สูงขึ้นและความผันผวนของการค้าโลกเข้าไว้ด้วยกัน  ใจกลางของความปั่นป่วนนี้คือนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กลับมาอีกครั้ง และกำลังบีบทั้งยักษ์ใหญ่อย่าง LVMH และ Hermès ไปจนถึงแบรนด์แฟชั่นราคาย่อมเยาอย่าง Shein  แม้ว่าแฟชั่นระดับโอต์กูตูร์จะยังคงเปล่งประกาย แต่โครงสร้างทางการเงินของอุตสาหกรรมแฟชั่นกลับเริ่มร้าวลึกหรือว่าภาษีนำเข้ากำลังเปลี่ยนรันเวย์ให้กลายเป็นสัญญาณอันตราย?  นโยบายการค้าของทรัมป์: ภัยคุกคามต่อกำไรของวงการแฟชั่น  นโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่กลับมาอีกครั้งกำลังส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วระบบแฟชั่นโลก แม้ว่าจะมีการเลื่อนเก็บภาษีตอบโต้จากสหภาพยุโรปออกไป 90 วันแต่สหรัฐฯก็ได้ประกาศเก็บภาษีพื้นฐาน 10% กับสินค้านำเข้าจากยุโรปแล้วโดยเฉพาะสินค้าแฟชั่นจากฝรั่งเศสและอิตาลีแหล่งหลักของแบรนด์อย่าง Louis Vuitton, Gucci และ Valentino  และนี่คือสิ่งที่อาจตามมา:  ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็เริ่มรุกคุมเข้ม fast fashion โดยในวันที่ 2 พฤษภาคม รัฐบาลได้ยกเลิกข้อยกเว้นภาษี (de minimis) สำหรับพัสดุจากจีนที่มีมูลค่าไม่เกิน $800 ซึ่งหมายความว่าสินค้าที่เคยไม่เสียภาษีจะถูกเก็บทันทีส่งผลโดยตรงต่อแบรนด์อย่าง Shein ที่พึ่งพาการจัดส่งต้นทุนต่ำในปริมาณมาก  […]

article-thumbnail

2025-05-07 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

100 วันแรกของทรัมป์: ภาษีนำเข้ากระทบเงินเฟ้อและเศรษฐกิจ 

ผ่านมาเพียงเล็กน้อยกว่า 100 วันหลังทรัมป์กลับสู่ทำเนียบขาว แต่ตลาดก็เริ่มรับแรงสั่นสะเทือนแล้ว  ตั้งแต่ภาษีนำเข้าชุดใหม่ ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ไปจนถึงความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและคาดการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป มาตรการเริ่มต้นของรัฐบาลทรัมป์กำลังวางรากฐานให้กับเศรษฐกิจสหรัฐในเฟสถัดไป  ในบทความนี้ เราจะถอดรหัสสัญญาณจริงจากตลาด ไม่ใช่แค่พาดหัวข่าว ตั้งแต่ผลกระทบของภาษีนำเข้าต่อเงินเฟ้อ การเปลี่ยนแปลงของความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ ไปจนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการว่างงาน  และนี่คือสิ่งที่นักลงทุนและเทรดเดอร์ควรจับตาต่อจากนี้  ผลกระทบของภาษีนำเข้าต่อเงินเฟ้อ  สัญญาณชัดเจนจาก 100 วันแรกของทรัมป์คืออะไร? ความคาดหวังเรื่องเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง  ลองดูกราฟนี้จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน:  หลังจากทรัมป์ประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าเมื่อวันที่ 2 เมษายน ความคาดหวังเงินเฟ้อก็พุ่งขึ้นทันที แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2023 แม้จะมีการประกาศชะลอการขึ้นภาษีบางส่วนในวันที่ 9 เมษายน แต่ระดับความคาดหวังยังคงสูง แสดงให้เห็นว่าเมื่อความกังวลเงินเฟ้อเริ่มฝังรากแล้ว มันไม่ได้หายไปในชั่วข้ามคืน  ประเด็นสำคัญ: แม้การขึ้นภาษีจะเริ่มชะลอลง แต่ความเสียหายต่อความเชื่อมั่นด้านเงินเฟ้อก็เกิดขึ้นแล้ว ทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจต่างก็เริ่มเตรียมรับมือกับราคาที่สูงขึ้น  ความเชื่อมั่นของผู้นำธุรกิจกำลังลดลง  ไม่ใช่แค่ผู้บริโภคที่เริ่มปรับตัว ซีอีโอก็เริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันเช่นกัน  ลองดูดัชนีความเชื่อมั่นของซีอีโอ (CEO Confidence Index) ซึ่งสะท้อนมุมมองของผู้นำธุรกิจต่อเศรษฐกิจในอีกหนึ่งปีข้างหน้า  สังเกตได้ว่าค่าดัชนีล่าสุดร่วงลงแรงจนใกล้ระดับ 5 ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในระดับต่ำสุดของทศวรรษ ประเด็นนี้สำคัญ เพราะซีอีโอเป็นผู้กำหนดทิศทางการจ้างงาน การลงทุน และการขยายธุรกิจ ดังนั้นเมื่อความเชื่อมั่นของพวกเขาลดลง ก็มักจะเป็นสัญญาณล่วงหน้าของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ  ทำไมนักเทรดควรใส่ใจประเด็นนี้? เพราะความเชื่อมั่นของซีอีโอที่ลดลง มักนำไปสู่การคาดการณ์ผลประกอบการที่ระมัดระวังมากขึ้น […]

article-thumbnail

2025-04-25 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

แม้หุ้นจะร่วง ทำไม “หุ้น Palantir” ถึงพุ่งแรงในปี 2025? 

ในปี 2025 ตลาดหุ้นดูคล้ายสนามรบ หุ้นเทคโนโลยีและกลุ่มเติบโตหลายตัวร่วงหนัก นักลงทุนต่างรีบเช็กคำสั่ง stop-loss กันรัวๆ แต่ท่ามกลางความปั่นป่วนนี้? “หุ้น Palantir” ไม่เพียงแค่ยืนระยะได้…แต่มันกำลังพุ่งขึ้น  ในขณะที่ตลาดโดยรวมเข้าสู่โหมดปรับฐาน หุ้นของ Palantir Technologies (PLTR) กลับกลายเป็นดาวรุ่งประจำปี ราคาพุ่ง เขียวทั้งกระดาน พาดหัวข่าวเป็นบวก และวอลล์สตรีทก็พูดถึงไม่ขาดสาย  แล้วอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ Palantir โดดเด่นสวนกระแสในปีที่หลายบริษัทกลับตกต่ำ?  สัญญารัฐยังไหลเข้าไม่หยุด  หัวใจหลักของธุรกิจ Palantir คือความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับหน่วยงานรัฐบาล และในปี 2025 ความสัมพันธ์นี้ไม่เพียงคงอยู่ แต่ยิ่งแน่นแฟ้นกว่าเดิม  ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีด้านกลาโหมทั่วโลก หลายประเทศเริ่มเทงบลงทุนกับระบบวิเคราะห์ข้อมูลสนามรบ ข่าวกรองด้วย AI และระบบเฝ้าระวังขั้นสูง ซึ่งเป็นจุดแข็งของ Palantir  ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีฝั่งผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายที่ลดลงและงบโฆษณาที่ถูกตัด Palantir กลับมีลูกค้าภาครัฐที่ยิ่งอัดงบเพิ่ม และมันก็สะท้อนชัดในงบการเงินของบริษัท  AI กำลังบูม และ Palantir คือยักษ์เงียบที่คนไม่พูดถึง  ใช่, NVIDIA อาจเป็นหน้าตาของกระแส AI แต่ Palantir […]

article-thumbnail

2025-04-17 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ภาษีทรัมป์ กระทบกับตลาดการเงินทั่วโลกอย่างไรในปี 2025?  

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศใช้นโยบาย “ภาษีศุลกากรตอบโต้” (Reciprocal Tariff) หรือ ภาษีทรัมป์ ฉบับใหม่ ที่มุ่งเป้าไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งถือว่าเกินความคาดหมายของตลาดอย่างมาก การเคลื่อนไหวนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ครั้งใหญ่ของนโยบายการค้าสหรัฐฯ และส่งสัญญาณถึงการปรับโครงสร้างใหม่ของระบบการค้าโลก  การประกาศดังกล่าวสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วตลาดการเงินทั่วโลก โดยเกิดแรงตอบรับอย่างฉับพลันและรุนแรงจากทั้งนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ แล้วภาษีชุดใหม่ของทรัมป์มีรายละเอียดอย่างไร? และจะส่งผลต่อทิศทางของตลาดการเงินในปี 2025 อย่างไร? มาดูในบทความนี้กัน   มีอะไรอยู่ในนโยบายภาษีทรัมป์?  เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ทรัมป์ได้เปิดตัวกรอบนโยบายภาษีใหม่ โดยมุ่งเน้นไปที่การจัดการปัญหาการขาดดุลทางการค้าระดับโลก โดยมีมาตรการสำคัญดังต่อไปนี้:  จากงานวิจัยของ Yale University พบว่า มาตรการใหม่นี้ส่งผลให้ อัตราภาษีเฉลี่ยของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 22.5% ซึ่งนับว่าเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 1909 และมากกว่าค่าประมาณการณ์เดิมที่อยู่ราว 10% ถึง 2 เท่า  อะไรอยู่เบื้องหลังการผลักดันนโยบายภาษีของทรัมป์?  นโยบายภาษีของทรัมป์มีเป้าหมายหลักอยู่ 3 ข้อสำคัญ:  การตอบรับของตลาดอย่างรุนแรงและตอบกลับแบบทันที  หลังจากมีการประกาศนโยบายภาษีใหม่ ตลาดการเงินตอบสนองอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทั้งในแง่ของ :   ตลาดหุ้นดิ่งแรง  ดอลลาร์อ่อนค่า  ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ผันผวน  […]

article-thumbnail

2025-03-24 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ราคาน้ำมันจะไปทางไหน? ข้อตกลงรัสเซีย-ยูเครนส่งผลอย่างไร?

ข่าวการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง และตลาดโลกก็กำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะตลาดน้ำมัน ตั้งแต่สงครามเริ่มต้นในปี 2022 ราคาน้ำมันมีความผันผวนอย่างหนัก  ทำให้เคยพุ่งขึ้นเกือบ 50% แตะระดับสูงกว่า $120 ต่อบาร์เรลในช่วงหนึ่ง สงครามทำให้ซัพพลายทั่วโลกหยุดชะงัก เกิดมาตรการคว่ำบาตรและส่งแรงกดดันต่อตลาดพลังงานทั่วโลก แต่ตอนนี้เมื่อมีสัญญาณของข้อตกลงสันติภาพ ราคาน้ำมันอาจเผชิญกับบททดสอบครั้งใหม่ ราคาจะร่วงลงเมื่อความกังวลด้านอุปทานคลี่คลาย? หรือจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีกครั้ง?  ติดตามบทวิเคราะห์เชิงลึกว่าข้อตกลงครั้งนี้อาจเปลี่ยนทิศทางของตลาดน้ำมันอย่างไร  ทำไมราคาน้ำมันช่วงนี้ถึงผันผวน  ข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดน้ำมันโลก โดยเฉพาะในด้านอุปทาน การค้า และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์  🔹 อุปทานน้ำมันจากรัสเซียอาจเพิ่มขึ้น: มาตรการคว่ำบาตรที่ผ่านมาได้จำกัดการส่งออกของรัสเซีย ทำให้ต้องขายน้ำมันในราคาต่ำ หากมีข้อตกลงสันติภาพ ข้อจำกัดเหล่านี้อาจผ่อนคลาย ส่งผลให้รัสเซียสามารถส่งออกน้ำมันกลับเข้าสู่ตลาดโลกได้มากขึ้น  🔹 ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์อาจลดลง: ตลอดสงคราม ความไม่แน่นอนได้ส่งผลให้ตลาดมีการตั้งราคาที่รวม “ค่าความเสี่ยง” เอาไว้ หากสงครามสิ้นสุดลง ความเสี่ยงนี้ก็จะหายไป ซึ่งอาจกดดันราคาน้ำมันให้ลดลง  🔹 ท่าทีของ OPEC+ ยังไม่แน่นอน: รัสเซียเป็นสมาชิกหลักของกลุ่ม OPEC+ การเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์การผลิตของรัสเซียหลังจากมีข้อตกลงสันติภาพ อาจส่งผลกระทบต่อแผนการผลิตของทั้งกลุ่ม  หากอุปทานน้ำมันเพิ่มขึ้น แต่ความต้องการยังคงเท่าเดิม ราคาน้ำมันก็มีโอกาสปรับตัวลดลง แต่ในโลกของตลาดพลังงาน ทุกอย่างมักไม่ง่ายขนาดนั้น  ผลกระทบราคาน้ำมันจากข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน  ข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจนำมาซึ่งเสถียรภาพในตลาดน้ำมันโลก หากความตึงเครียดคลี่คลายและมาตรการคว่ำบาตรถูกยกเลิก […]

article-thumbnail

2025-03-14 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ปี 2025 เศรษฐกิจถดถอย ? ทำไมดอลลาร์ถึงสำคัญและเราควรรู้  

คำถามใหญ่ในตลาดตอนนี้คือ ใกล้ถึงภาวะเสรษฐกิจถดถอยแล้วหรือยัง? เพื่อจะตอบคำถามนี้ได้อย่างดีนักลงทุนทั้งหลายต้องคอยจับตาดูเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างใกล้ชิด ในขณะที่ตลาดส่งสัญญาณว่า “ปี 2025 เศรษฐกิจถดถอย”  แต่เงินดอลลาร์กลับไม่เป็นเหมือนที่คาดไว้ แทนที่จะเป็นเหมือนที่ปลอดภัยแบบก่อนๆ แต่กลับอ่อนค่าลงมาก ดัชนีค่าเงินดอลลาร์เพิ่งแตะระดับจุดต่ำสุดมาตั้งแต่พฤศจิกายน 2567 การเดิมพันอัตราดอกเบี้ยกำลังเพิ่มสูงขึ้น และตอนนี้เฟด (Fed) ก็เป็นห่วงอนาคตของดอลลาร์เช่นกัน  “ฉันเป็นกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับปัจจัยที่อาจคุกคามเงินสำรองของดอลลาร์สหรัฐ”  Fed’s Harker ได้กล่าวไว้   แล้วอะไรหละที่อยู่เบื้องหลังของการร่วงของเงินดอลลาร์ และมีความหมายต่อนักเทรดและนักลงทุนอย่างไร?   นโยบายทรัมป์และเศรฐกิจถดถอยปี 2025   ต่อให้รักหรือเกลียดทรัมป์แค่ไหน แต่ก็ต้องยอมรับว่าปัจจุบันจากนโยบายของรัฐบาลชุดนี้มีผกระทบต่อตลาดและเป็นส่วนที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง    นโยบายการคลังที่ต่างจากวาระแรก ในวาระที่สองนี้ ทรัมป์มุ่งเน้นไปที่การลดการใช้จ่ายของรัฐบาลและการลดการขาดดุลงบประมาณ แม้ว่าสิ่งนี้อาจเป็นผลดีต่อความยั่งยืนของหนี้ระยะยาว แต่ก็สร้างความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ นักลงทุนจึงเริ่มปรับพอร์ต หันออกจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ คาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  การปรับลดอัตราดอกเบี้ย การคาดการณ์ว่าเฟด (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกกำลังกดดันค่าเงินดอลลาร์ เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ผลตอบแทนจากการถือครองเงินดอลลาร์ก็ลดลงตาม ทำให้เงินดอลลาร์ไม่น่าสนใจเทียบกับสกุลเงินอื่น  ความตึงเครียดทางการค้า แนวคิด “America First” ของทรัมป์กลับมาอีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดทั่วโลกเตรียมรับมือกับมาตรการกำแพงภาษีใหม่และสงครามการค้าครั้งใหม่ ความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้นักลงทุนเริ่มมองหาสินทรัพย์อื่น   ทำไมเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และสิ่งนี้หมายถึงอะไร?   โดยปกติแล้ว เมื่อเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย นักลงทุน […]

Fear & Greed Index at ‘Extreme Fear’

2025-03-06 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ดัชนี Fear & Greed แตะระดับ‘กลัวถึงขีดสุด’ นักลงทุนต้องทำไง?

Fear & Greed Index จาก CNN หรือเรียกอีกชื่อว่า ดัชนีแห่งความกลัวและโลภ เพิ่งแตะระดับ “Extreme Fear” หรือกลัวถึงขีดสุด ส่งผลให้นักลงทุนกำลังอยู่ในโหมดเทขายเต็มตัว ความต้องการเสี่ยงหายไป หุ้นและคริปโตตกลงอย่างต่อเนื่อง เงินทุนไหลออกอย่างรวดเร็ว หากคุณอยู่ในตลาดมานานมากพอ จะเข้าใจว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไร  ดัชนีแห่งความกลัวและโลภ (Fear & Greed Index) คือเครื่องมือที่ใช้วัดอารมณ์ของตลาดว่าตอนนี้อยู่ในสถาการณ์แบบไหน ซึ่งตอนนี้ถึงจุดที่ความกลัว (Extreme Fear) ที่เข้าครอบงำตลาด แต่มักจะเปิดโอกาสให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่ แต่คำถามถัดไปคือจังหวะไหนที่ควรจะเข้า? เรามาลองวิเคราะห์ถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดแรงเทขาย และแหล่งเงินมหาศาลจะไปรออยู่ตรงไหน อะไรที่ทำให้ตลาดผันผวนหนัก?   เรียกว่านี่ไม่ได้เกิดจากปัจจัยเดียว แต่คือมรสุมอย่างหนัก  “ทอง” ยังเป็นสินทรัพย์เดียวที่ยังแข็งแกร่ง   ท่ามกลางความปั่นป่วนนี้ ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง  นักลงทุนกำลังหนีเข้าสู่ความปลอดภัย ราคาทองพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และกองทุน ETF ทองคำมียอดไหลเข้าทะลุ 4.38 พันล้านดอลลาร์ ทำไมกัน? เพราะเวลาที่ตลาดตื่นกระหนก หรือปันผวนแบบนี้ สินทรัพย์ปลอดภันอย่างทองก็จะพุ่งสูงขึ้น เมื่อเงินไหลออกจากหุ้นและคริปโต ทองก็จะเปรียบเสมือนฟองน้ำที่ดูดซับเงินเหล่านั้นเอาไว้ และนี่ไม่ใช่แค่การหลบไปยังจุดปลอดภัย […]

Load more...